วิธีการสื่อสารข้อมูล
วิธีการสื่อสารข้อมูลระหว่างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
1.การสื่อสารข้อมูลแบบไม่ประสานจังหวะ
(Asynchronous)
การสื่อสารข้อมูลแบบอะซิงโครนัส (Asynchronous) จะส่งข้อมูลออกมาทีละตัวอักษร โดยจะเพิ่มบิตนำหน้า (start bit or space) และบิตสิ้นสุด (stop bit or mark) เพื่อบอกขอบเขตของ ตัวอักษร ในกรณีที่มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก็จะเพิ่มบิตแพริตี้ (parity bit) เข้ามาด้วย เนื่องจากการส่งข้อมูลเป็นไปทีละตัวอักษร (หรือไบท์) ซึ่งเป็นอิสระต่อกัน ดังนั้นช่วงต่อระหว่าง ตัวอักษรที่ส่งออกไปจึงไม่มีความสำคัญมากนัก นั่นคือตัวอักษรจำนวนหลายตัวอาจถูกส่งติดต่อกันไปโดยไม่เว้นช่วงเลยหรืออาจมีการเว้นช่วงว่าง (idle) ระหว่างการส่งตัวอักษรแต่ละตัวก็ได้ และ ช่วงว่างแต่ละช่วงก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเท่ากัน ในกรณีที่ไม่มีข้อมูลจะส่ง แทนที่จะปล่อยให้ไม่มีสัญญาณเลยก็มักจะส่งบิตสิ้นสุด (คือบิต1) ติดต่อกันไปตลอดเวลาจนกว่าจะไม่มีข้อมูลพร้อมส่ง หรือยกเลิกการสื่อสารระหว่างกัน
การสื่อสารข้อมูลแบบอะซิงโครนัส (Asynchronous) จะส่งข้อมูลออกมาทีละตัวอักษร โดยจะเพิ่มบิตนำหน้า (start bit or space) และบิตสิ้นสุด (stop bit or mark) เพื่อบอกขอบเขตของ ตัวอักษร ในกรณีที่มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก็จะเพิ่มบิตแพริตี้ (parity bit) เข้ามาด้วย เนื่องจากการส่งข้อมูลเป็นไปทีละตัวอักษร (หรือไบท์) ซึ่งเป็นอิสระต่อกัน ดังนั้นช่วงต่อระหว่าง ตัวอักษรที่ส่งออกไปจึงไม่มีความสำคัญมากนัก นั่นคือตัวอักษรจำนวนหลายตัวอาจถูกส่งติดต่อกันไปโดยไม่เว้นช่วงเลยหรืออาจมีการเว้นช่วงว่าง (idle) ระหว่างการส่งตัวอักษรแต่ละตัวก็ได้ และ ช่วงว่างแต่ละช่วงก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเท่ากัน ในกรณีที่ไม่มีข้อมูลจะส่ง แทนที่จะปล่อยให้ไม่มีสัญญาณเลยก็มักจะส่งบิตสิ้นสุด (คือบิต1) ติดต่อกันไปตลอดเวลาจนกว่าจะไม่มีข้อมูลพร้อมส่ง หรือยกเลิกการสื่อสารระหว่างกัน
2.การสื่อสารข้อมูลแบบประสานจังหวะ (Synchronous)
ข้อมูลกลุ่มหนึ่งประกอบกันเป็นบล็อก (block) ประกอบด้วยข้อมูล 4 ส่วน คือ
1)
ตัวอักษรซิงค์ (synchronous character; SYN) จำนวน 3 ตัว
2)
ข้อมูลที่ต้องการส่งจำนวนหนึ่ง
3) ชุดข้อมูลควบคุม (block control character) และ
4) อักษรสิ้นสุดบล็อก (end of block character)
ถูกนำมาใช้ในการสื่อสารข้อมูลแบบซิงโครนัส (Synchronous)
ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าแบบอะซิงโครนัส
ในที่นี้ตัวอักษรซิงค์มีหน้าที่หลักในขณะส่งข้อมูลสองประการคือ เป็นตัวบอก
จุดเริ่มต้นของบล็อกข้อมูลและเป็นข้อมูลที่ทางฝั่งผู้รับ
เปรียบเทียบจังหวะการรับข้อมูลของตนเองให้สอดคล้องกับจังหวะการส่งข้อมูลของผู้ส่ง
นอกจากนี้ ในขณะที่ไม่มีการส่งข้อมูล
ผู้ส่งและผู้รับจะแลกเปลี่ยนตัวอักษรซิงค์ระหว่างกันเพื่อประโยชน์คือ
ทำให้ทั้งคู่ทราบว่าอีกฝ่ายหนึ่งยังคงทำงานให้ตรงกันเพื่อให้มีความพร้อมในการส่งข้อมูลอยู่ตลอดเวลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น